VitaHealth Fish Oil 1000 mg
VitaHealth Fish Oil 1000 mg น้ำมันปลาเป็นแหล่งที่ให้โอเมก้า 3 (Omega-3) จากธรรมชาติ ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็น EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือด ลดระดับไขมันในเลือด ควบคุมความดันโลหิต ทำให้การไหลเวียนโลหิตเป็นปกติช่วยลดการอักเสบของข้อต่อ ช่วยบำรุงสมอง และสายตาได้อีกด้วย
เหมาะสำหรับ
– ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดและหัวใจ
– ผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้ออักเสบ
– ผู้ที่ต้องการป้องกันภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
– ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง เช่น วัยทำงาน นักศึกษา
– ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดและหัวใจ
– ผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง
– ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้ออักเสบ
– ผู้ที่ต้องการป้องกันภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
– ผู้ที่ต้องการบำรุงสมอง เช่น วัยทำงาน นักศึกษา
วิธีรับประทาน
ครั้งละ 1 เเคปซูล พร้อมอาหาร
อย.10-3-23549-1-0022
ครั้งละ 1 เเคปซูล พร้อมอาหาร
อย.10-3-23549-1-0022
ส่วนประกอบสำคัญ | |
น้ำมันปลาธรรมชาติ | 1000 มก. |
เทียบเท่า กรดไขมันโอเมก้า-3 | 300 มก. |
อี พี เอ EPA ( Eicosapebtaenoic Acid ) | 180 มก. |
ดี เอช เอ DHA ( Docosahexaenoic Acid ) | 120 มก. |
วิตามิน อี ธรรมชาติ | 1.2 หน่วยสากล |
ประโยชน์ของ Fish Oil 1000mg
กรดไขมันโอเมก้า-3 (Omega-3)
เป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ ซึ่งเป็นโครงสร้างไขมันสำคัญในสมองและ จอประสาทตา ช่วยทำให้ความจำดี และต่อต้านภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
เป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ ซึ่งเป็นโครงสร้างไขมันสำคัญในสมองและ จอประสาทตา ช่วยทำให้ความจำดี และต่อต้านภาวะสมองเสื่อมก่อนวัย
EPA ( Eicosapebtaenoic Acid )
มีผลในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ลดความหนืดและการเกิดลิ่มเลือด ลดการแข็งตัวของเลือด และลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ และเส้นเลือดอุดตัน
มีผลในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ลดความหนืดและการเกิดลิ่มเลือด ลดการแข็งตัวของเลือด และลดความดันโลหิต ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ และเส้นเลือดอุดตัน
DHA ( Docosahexaenoic Acid )
ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันสมองเสื่อม จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า 40% ของกรดไขมันในสมองคือ ดี เอช เอ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาการของสมองตั้งแต่ทารกในครรภ์ ไปจนถึงวัยสูงอายุ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มสมอง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันสมองเสื่อม จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่า 40% ของกรดไขมันในสมองคือ ดี เอช เอ จึงมีความสำคัญต่อการพัฒนาการของสมองตั้งแต่ทารกในครรภ์ ไปจนถึงวัยสูงอายุ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มสมอง ทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมต้อง Vita Health Fish Oil 1000mg
น้ำมันปลา อาจมีประโยชน์มากกว่าที่คุณเคยรู้
น้ำมันปลา อาจมีประโยชน์มากกว่าที่คุณเคยรู้
- ประโยชน์ต่อระบบหัวใจและสมอง โดยมีส่วนช่วยยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด และลดไขมันในเลือด จึงช่วยป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ โดยเฉพาะหัวใจและสมอง
- ประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือด โดยมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น ลดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ
- ประโยชน์เกี่ยวกับความดันโลหิตของร่างกาย เนื่องจากโอเมก้า 3 จะมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีขึ้น จึงมีผลให้ความดันลดลง โดยที่น้ำมันปลาจะไม่มีผลต่อความดันในผู้ที่มีความดันโลหิตปกติแต่อย่างใด
- มีส่วนช่วยลดระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดได้ 20% – 50% ที่สำคัญคือ ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย สามารถใช้ร่วมกับยาในการลดระดับไขมันในผู้ที่มีไขมันในเลือดสูงได้
- อาการข้อเสื่อม ข้อรูมาตอยด์ กรดไขมันโอเมก้า 3 มีคุณสมบัติในการช่วยลดอาการอักเสบ อาการตึงแน่น และอาการข้อยึดตอนเช้า ในผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ เนื่องจาก EPA สามารถลดสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ปวด บวมข้อ นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มการสร้างสารที่มีคุณสมบัติทำให้อาการอักเสบต่างๆ ของข้อลดลงได้
- เสริมการทำงานของเซลล์สมอง ป้องกันสมองเสื่อม การรับประทานน้ำมันปลาจะมีส่วนป้องกันสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ได้ เพราะ DHA ช่วยเพิ่มสารที่ช่วยลดการสร้างเส้นใยในสมองอันเป็นตัวการทำลายใยประสาทส่วนความจำ
- ภาวะซึมเศร้า พบว่าผู้ที่บริโภคปลาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเป็นโรคซึมเศร้าต่ำ เพราะสมดุลของกรดไขมันในร่างกายมีผลต่อความรุนแรงของการเกิดโรคซึมเศร้า จากการวิจัยพบว่าคนที่มีระดับกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่ำ แต่โอเมก้า 6 สูง มีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ
- มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โดยนักวิจัยพบว่ากรดไขมัน EPA ในน้ำมันปลา จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้นได้
- อาการปวดไมเกรน กรดไขมันในน้ำมันปลาจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพรอสตาแกลนดิน และลดการหลั่งสารซีโลโทนิน ทำให้การเกาะตัวของหลอดเลือดลดลงในระยะที่มีการบีบตัวของหลอดเลือดในสมอง จึงอาจช่วยลดอาการปวดไมเกรนได้
- อาการหอบหืด การรับประทานน้ำมันปลาจะช่วยลดสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และสารสำคัญที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด ดังนั้น การรับประทานน้ำมันปลาอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยบรรเทาอาการหอบหืดได้
- โรคผิวหนังบางชนิด การรับประทานปลาที่มีไขมันมากอาจจะช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังได้ เช่น สะเก็ดเงิน โรคเรื้อนกวาง โดยลดอาการคัน ทำให้ผื่นแดงน้อยลง
รีวิว
ยังไม่มีความคิดเห็น