aLGy Spray Double Pack ผลิตภัณฑ์สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่นขนาด 250 มล.
aLGy Spray สเปรย์กำจัดไรฝุ่นอันเป็นผลผลิตจากการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง ของคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังโดยทุนสนับสนุนจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้ และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย ( BRT) ในสังกัดของ สวทช. (NSTDA)
ผลิตภัณฑ์สเปรย์สมุนไพรสกัดจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. เพื่อป้องกันและกำจัดไรฝุ่น
2. เพื่อการทำความสะอาดที่นอนอย่างมีคุณภาพ โดยปลอดสารเคมีจากน้ำหอม
3. ช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ และช่วยให้หลับสบายอย่างผ่อนคลาย
4. เสริมภูมิต้านทาน
5. ปลอดเคมีรุนแรง
6. ลดโลกร้อน
1. เพื่อป้องกันและกำจัดไรฝุ่น
2. เพื่อการทำความสะอาดที่นอนอย่างมีคุณภาพ โดยปลอดสารเคมีจากน้ำหอม
3. ช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ และช่วยให้หลับสบายอย่างผ่อนคลาย
4. เสริมภูมิต้านทาน
5. ปลอดเคมีรุนแรง
6. ลดโลกร้อน
AlGy มีเป้าหมายหลักในการค้นหาสารกำจัดไรฝุ่น จากสมุนไพรเป็นหลัก จนในที่สุดค้นพบว่า สมุนไพรที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อย่างการพลู อบเชย ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนกับมีกลิ่นหอมระเหย พร้อมกับสมุนไพร ไทยอีกหลายชนิดมีสารสกัดที่มีฤทธิ์กำจัดไรฝุ่นได้ แต่ยังปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ เพราะเป็นสารสกัดจากสมุนไพรแท้ๆ ดังนั้น จึงถือได้ว่าสเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น aLGy เป็นผลิตภัณฑ์กำจัดไรฝุ่นชนิดใหม่ ที่ให้ความปลอดภัยสูงต่อตัวผู้ใช้ในปัจจุบัน พร้อมกันนี้ยังสามารถใช้เป็นสเปรย์ปรับอากาศภายในบ้าน รถยนต์ หรือใช้เป็น Pillow and Mattress mist เพื่อช่วยให้หลับสบายผ่อนคลายยิ่งขึ้นด้วย
กลิ่นหอมจากส่วนผสมเบื้องต้น ดังนี้
Organge ส้ม ให้ความรู้สึกสดชื่น
Bergamot, Kaffir lime มะกรูด
Lemon oil มะนาว, ช่วยให้สดชื่น
Clove กานพลู ช่วยฆ่าเชื้อ และผ่อนคลาย
Lavender ดอกลาเวนเดอร์ ช่วยผ่อนคลาย หลับสบาย และยังมีกลิ่นบำบัดจากดอกไม้
Rosemary oil โรสแมรี่ ช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกาย
Organge ส้ม ให้ความรู้สึกสดชื่น
Bergamot, Kaffir lime มะกรูด
Lemon oil มะนาว, ช่วยให้สดชื่น
Clove กานพลู ช่วยฆ่าเชื้อ และผ่อนคลาย
Lavender ดอกลาเวนเดอร์ ช่วยผ่อนคลาย หลับสบาย และยังมีกลิ่นบำบัดจากดอกไม้
Rosemary oil โรสแมรี่ ช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกาย
วิธีใช้
aLGy แบบแก๊ส เขย่าขวดก่อนใช้ และฉีดลงบนหมอน ที่นอน และผ้าห่ม (อุปกรณ์บนที่นอนทุกชิ้นมีความสำคัญมาก) หรือ โซฟา เบาะรองนั่ง พรม ม่าน ตุ๊กตาผ้า ขน หรือวัสดุผ้าทุกชนิดหรือแม้แต่ในรถยนตร์ ฉีดให้ทั่วแล้วใช้ผ้าห่ม หรือผ้าพลาสติกคลุมไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถกำจัดไรฝุ่นได้แล้ว หรือสามารถฉีดทิ้งไว้นานกว่านั้น แล้วปิดห้องให้สนิทก็ได้ โดยในเดือนแรกทำซ้ำกัน 2 ครั้งห่างกัน 7-10 วัน แล้วเดือนถัดไป ทำเดือนละครั้งเพื่อป้องการหวนกลับมาของไรฝุ่นจากที่อื่นที่อาจติดตามเสื้อผ้ากลับมา
aLGy แบบแก๊ส เขย่าขวดก่อนใช้ และฉีดลงบนหมอน ที่นอน และผ้าห่ม (อุปกรณ์บนที่นอนทุกชิ้นมีความสำคัญมาก) หรือ โซฟา เบาะรองนั่ง พรม ม่าน ตุ๊กตาผ้า ขน หรือวัสดุผ้าทุกชนิดหรือแม้แต่ในรถยนตร์ ฉีดให้ทั่วแล้วใช้ผ้าห่ม หรือผ้าพลาสติกคลุมไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถกำจัดไรฝุ่นได้แล้ว หรือสามารถฉีดทิ้งไว้นานกว่านั้น แล้วปิดห้องให้สนิทก็ได้ โดยในเดือนแรกทำซ้ำกัน 2 ครั้งห่างกัน 7-10 วัน แล้วเดือนถัดไป ทำเดือนละครั้งเพื่อป้องการหวนกลับมาของไรฝุ่นจากที่อื่นที่อาจติดตามเสื้อผ้ากลับมา
สำหรับท่านที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง เช่นหอบหืด (Asthma) หรือคันตามผิวหนังรุนแรง อาจใช้เครื่องดูดฝุ่น ดูดซากของไรฝุ่น และมูลของมันในครั้งที่ 1-2 เท่านั้น และดูดฝุ่นซ้ำในทุก 6 เดือน แต่หากไม่ดูดฝุ่นก็ยังสามารถวางใจได้ว่า เห็นผลค่อนข้างมากแล้ว เพราะ aLGy ยังสามารถลดความ รุนแรงของสารก่อภูมิแพ้ได้ ซึ่งในระหว่างงานวิจัยกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบกับผู้ป่วยจริง อยู่อย่างต่อเนื่อง และได้ผลตอบรับที่ดี ส่วนจะมากน้อย ขึ้นอยู่กับอาการ แพ้ของแต่ละท่าน รวมถึงการดูแลสุขภาพของแต่ละบุคคลด้วย
โรคภูมิแพ้
คนไทยกว่า 10 ล้านคน หรือ 1 ใน 6 ของคนไทย เป็นโรคภูมิแพ้ ตัวเลขนี้ยังไม่รวมคนที่มีโอกาสจะเป็น และคนที่เป็นแล้ว แต่ไม่รู้ตัวว่าเป็นอีกมากมาย ดังนั้นเราควรมาตื่นรู้ เพื่อป้องกันและรับมือกันดีกว่า ภูมิแพ้ เกิดจากสภาวะที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ (allergen) แต่จะมีปริมาณมากเกินว่าภาวะคนปกติ และสำหรับคนที่แพ้เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกครั้ง ร่างกายจะแสดงอาการแพ้ ออกมาอย่างชัดเจน โดยการแพ้แต่ละคนจะแตกต่างกันไป
คนไทยกว่า 10 ล้านคน หรือ 1 ใน 6 ของคนไทย เป็นโรคภูมิแพ้ ตัวเลขนี้ยังไม่รวมคนที่มีโอกาสจะเป็น และคนที่เป็นแล้ว แต่ไม่รู้ตัวว่าเป็นอีกมากมาย ดังนั้นเราควรมาตื่นรู้ เพื่อป้องกันและรับมือกันดีกว่า ภูมิแพ้ เกิดจากสภาวะที่ร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายสร้างระบบภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ (allergen) แต่จะมีปริมาณมากเกินว่าภาวะคนปกติ และสำหรับคนที่แพ้เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกครั้ง ร่างกายจะแสดงอาการแพ้ ออกมาอย่างชัดเจน โดยการแพ้แต่ละคนจะแตกต่างกันไป
ตัวอย่าง เช่น
– อาการคันตา ตาแดง แสบตา น้ำตาไหลเรียกอาการแบบนี้ว่า ตาอักเสบจากภูมิแพ้
– อาการจาม ไอ คันจมูก น้ำมูกใสๆ ไหลออกมาตลอดเวลา เรียกอาการแบบนี้ว่า จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศ
– มีผดผื่นขึ้นตามตัว มีสะเก็ดบางๆ มีอาการคันเรียกว่า เป็นลมพิษ
– มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหรือมีผื่นแดงขึ้นตามแขนหรือลำตัว ก็เรียกว่าแพ้อาหาร เช่น แพ้อาหารทะเล เป็นต้น
แต่อาการภูมิที่พบได้บ่อยที่สุดคือ แพ้ฝุ่นละออง หรือจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ อันมีสาเหตุหลักใหญ่ๆ มาจากการแพ้มูลหรือคราบของไรฝุ่นบ้าน ซึ่งมักพบว่าอาศัยอยู่ตามที่นอน หมอนผ้าห่ม ตุ๊กตา เบาะโซฟา ที่มีใยสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบ
– อาการคันตา ตาแดง แสบตา น้ำตาไหลเรียกอาการแบบนี้ว่า ตาอักเสบจากภูมิแพ้
– อาการจาม ไอ คันจมูก น้ำมูกใสๆ ไหลออกมาตลอดเวลา เรียกอาการแบบนี้ว่า จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศ
– มีผดผื่นขึ้นตามตัว มีสะเก็ดบางๆ มีอาการคันเรียกว่า เป็นลมพิษ
– มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนหรือมีผื่นแดงขึ้นตามแขนหรือลำตัว ก็เรียกว่าแพ้อาหาร เช่น แพ้อาหารทะเล เป็นต้น
แต่อาการภูมิที่พบได้บ่อยที่สุดคือ แพ้ฝุ่นละออง หรือจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ อันมีสาเหตุหลักใหญ่ๆ มาจากการแพ้มูลหรือคราบของไรฝุ่นบ้าน ซึ่งมักพบว่าอาศัยอยู่ตามที่นอน หมอนผ้าห่ม ตุ๊กตา เบาะโซฟา ที่มีใยสังเคราะห์เป็นส่วนประกอบ
ไรฝุ่น
คือ เป็นสัตว์ขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะกินเศษผิวหนัง ขี้ไคล รังแคของคนเป็นอาหาร เมื่อไรฝุ่นถ่ายมูออกมา และเกิดฟุ้งกระจายขึ้นมาในอากาศ เมื่อคนสูดหายใจเอาเข้าไป จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ในที่สุด มีหลายชนิดด้วยกันแต่ชนิดที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ได้แก่ Dermatophagoides pteroryssinus (Trouessart) และชนิด Blomia tropicalis Bronswijk เรียกสั้นสั้นว่า โบรเมีย มีวงจรชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายประมาณ 6 สัปดาห์ สิ่งที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้จากไรฝุ่น คือ มูลและคราบของไรฝุ่น เมื่อไรฝุ่นถ่ายมูลหรือลอกคราบออกมา ซึ่งทั้ง 2 อย่างมีองค์ประกอบที่เป็นโปรตีนที่สามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ เมื่อได้รับแรงกระแทกจากกิจกรรมของคนเช่นขยับตัวบนที่นอน ก็จะฟุ้งขึ้นมาในอากาศ คนสูดดมเข้าไปจะก่อให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาซึ่งจะแสดงอาการมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
คือ เป็นสัตว์ขนาดเล็กมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น จะกินเศษผิวหนัง ขี้ไคล รังแคของคนเป็นอาหาร เมื่อไรฝุ่นถ่ายมูออกมา และเกิดฟุ้งกระจายขึ้นมาในอากาศ เมื่อคนสูดหายใจเอาเข้าไป จะก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ในที่สุด มีหลายชนิดด้วยกันแต่ชนิดที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ได้แก่ Dermatophagoides pteroryssinus (Trouessart) และชนิด Blomia tropicalis Bronswijk เรียกสั้นสั้นว่า โบรเมีย มีวงจรชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายประมาณ 6 สัปดาห์ สิ่งที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้จากไรฝุ่น คือ มูลและคราบของไรฝุ่น เมื่อไรฝุ่นถ่ายมูลหรือลอกคราบออกมา ซึ่งทั้ง 2 อย่างมีองค์ประกอบที่เป็นโปรตีนที่สามารถก่อให้เกิดภูมิแพ้ได้ เมื่อได้รับแรงกระแทกจากกิจกรรมของคนเช่นขยับตัวบนที่นอน ก็จะฟุ้งขึ้นมาในอากาศ คนสูดดมเข้าไปจะก่อให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาซึ่งจะแสดงอาการมากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
การรักษา
คือการทานยาแก้แพ้ เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น หรือ การฉีดวัคซีนป้องกัน คือวีธีที่นิยมกันแต่อาจต้องใช้การรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และอาจไม่หายขาดในบางรายหากเรายังได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้น การป้องกันน่าจะเป็นหนทางที่ดีในการช่วยลดการภูมิแพ้ เช่น
คือการทานยาแก้แพ้ เพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น หรือ การฉีดวัคซีนป้องกัน คือวีธีที่นิยมกันแต่อาจต้องใช้การรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และอาจไม่หายขาดในบางรายหากเรายังได้รับสารก่อภูมิแพ้อีกอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก ดังนั้น การป้องกันน่าจะเป็นหนทางที่ดีในการช่วยลดการภูมิแพ้ เช่น
– การทำให้มูลของไรฝุ่นเป็นสารก่อภูมิแพ้เสื่อมสภาพ โดยการซักชุดเครื่องนอนปลอกหมอนบ่อยๆ
– จัดสภาพแวดล้อมภายในบ้านที่อยู่อาศัยไม่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง อันจะเป็นที่อยู่อาศัยของไรฝุ่น
– ใช้เครื่องกรอง หรือเครื่องฟอกอากาศเพื่อลดการฟุ้งกระจายของละอองที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
– การเลือกใช้ผ้าคลุมปลอกหมอนกันไรฝุ่น แบบทอแน่น หรือแบบเคลือบสารเคมีฆ่าไรฝุ่น
– การใช้ผลิตภัณฑ์สเปรย์กำจัดไรฝุ่น ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นสารเคมี นิยมในต่างประเทศ แต่อาจใช้ได้แค่บนพรม หรือม่าน เท่านั้น ยังไม่นิยมใช้บนที่นอน
– หรือเลือกใช้สเปรย์ฆ่าไรฝุ่น ที่สกัดจากน้ำมันหอมระเหย จากธรรมชาติ ซึ่งน่าจะมั่นใจได้มากกว่าในการฉีดบนที่นอน หมอน ผ้าห่มของคุณ
– ใช้เครื่องกรอง หรือเครื่องฟอกอากาศเพื่อลดการฟุ้งกระจายของละอองที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
– การเลือกใช้ผ้าคลุมปลอกหมอนกันไรฝุ่น แบบทอแน่น หรือแบบเคลือบสารเคมีฆ่าไรฝุ่น
– การใช้ผลิตภัณฑ์สเปรย์กำจัดไรฝุ่น ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นสารเคมี นิยมในต่างประเทศ แต่อาจใช้ได้แค่บนพรม หรือม่าน เท่านั้น ยังไม่นิยมใช้บนที่นอน
– หรือเลือกใช้สเปรย์ฆ่าไรฝุ่น ที่สกัดจากน้ำมันหอมระเหย จากธรรมชาติ ซึ่งน่าจะมั่นใจได้มากกว่าในการฉีดบนที่นอน หมอน ผ้าห่มของคุณ
รีวิว
ยังไม่มีความคิดเห็น