จะรู้ได้อย่างไรว่าแพ้ยา
อาการแพ้ยา เป็นอาการผิดปกติที่เกิดจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านกับยาที่เรารับประทานเข้าไป เสมือนว่ายานั้นเป็นสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าเราแพ้ยาหรือไม่ หากเราไม่เคยมีการทดสอบด้วยยาชนิดนั้น ๆมาก่อน แต่เราสามารถตรวจสอบว่าเราแพ้ยาที่รับประทานเข้าไปหรือไม่ โดยการสังเกตอาการระยะเริ่มต้นได้ก่อนที่จะมีอาการแพ้ที่รุนแรงมากขึ้น โดยทั่วไปอาการแพ้มักมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันซึ่งหากในครอบครัวของเรามีคนที่แพ้ยา ก็มีโอกาสที่เราจะแพ้ยาเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
วิธีการสังเกตอาการแพ้ยา
การแพ้ยา สามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่รับประทานยา หรืออาจเริ่มมีอาการแพ้เกิดขึ้นภายหลังจากที่ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันมาต่อต้านยาแล้วก็ได้ ซึ่งอาจทิ้งระยะเวลานานหลายวันจึงจะมีอาการแพ้ โดยลักษณะเริ่มต้นของการแพ้จะมีดังต่อไปนี้
- ผื่นลมพิษ
- คันตามผิวหนัง หรือดวงตา
- อาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น
อาการเหล่านี้หากปล่อยล่วงเลยไปอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่รุนแรงขึ้นจนถึงชีวิตได้ตัวอย่างเช่น
- มีไข้สูง
- ลมหายใจติดขัด หายใจมีเสียงแหลม
- ปวดท้องรุนแรง คลื่นไส้
- วิงเวียนศีรษะ
- อาเจียน ท้องเสีย
- ชีพจรเต้นอ่อน หรือเร็วผิดปกติ
- ความดันเลือดต่ำ
- ลมชัก
- สูญเสียการรับรู้
นอกจากนี้ยังมีอาการแพ้ยาที่พบได้ยาก แต่ก็มีความรุนแรงเช่นเดียวกัน ซึ่งผลจากการแพ้ลักษณะนี้อาจจะยังคงอยู่ต่อได้นานหลายสัปดาห์ แม้ว่าราจะหยุดรับประทานยาตัวนั้นไปแล้วก็ตาม
- ภาวะภูมิคุ้มกันไวกว่าปกติ หรือ Serum sickness เกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิมาต่อต้านยามากเกินไป ส่งผลให้เกิดไข้สูง ปวดบริเวณไขข้อ เป็นผื่น บวม หรือคลื่นไส้
- ภาวะโลหิตจางที่เกิดจากการใช้ยา จะทำให้ปริมาณเม็ดเลือดแดงของเราลดลง ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย หัวใจเต้นผิดปกติ และหายใจได้ทีละน้อย ไม่เต็มปอด
- ภาวะผื่น และการบวมที่รุนแรง โดยร่างกายจะสร้างเม็ดเลือดขาวมาตอบสนองกับตัวยามากผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการบวมตามร่างกาย ต่อมน้ำเหลืองโต หรือถึงขั้นมีอาการตับ หรือไตอักเสบร่วมด้วยได้
วิธีดูแลรักษาเมื่อเกิดอาการแพ้ยา
เมื่อเราเริ่มสงสัยว่าตนเองจะมีอาการแพ้ยา ควรปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้
- หยุดใช้ยาทุกชนิดที่ต้องสงสัยว่าจะแพ้ทันที
- กรณีที่มีผื่นขึ้นให้ถ่ายภาพลักษณะผื่นที่เกิดไว้ หากผื่นมีการลุกลามหรือเปลี่ยนแปลงไปก็ต้องถ่ายภาพเอาไว้เพื่อประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ด้วยเช่นกัน
- นำยาที่รับประทานเข้าไป พร้อมชื่อยาและฉลากยาไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้ยา
- จดจำชื่อยา และอาการที่แพ้
- พกบัตรแพ้ยาติดตัวเสมอ
- แจ้งชื่อยาที่แพ้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนรับการรักษาทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือกลุ่มยาที่เคยแพ้
ข้อห้ามสำหรับผู้แพ้ยา
ไม่ควรทานยาที่แพ้ทีละน้อยเพื่อหวังให้อาการแพ้ค่อย ๆหายไป เนื่องจากอาการแพ้ยาไม่ใช่อาการที่จะหายได้ด้วยการรับประทานซ้ำบ่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นอาจก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรงขึ้นกว่าเดิมได้ ดังนั้น หากเราแพ้ยาชนิดใด ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาประเภทนั้นไปตลอดจะปลอดภัยที่สุด
ที่มา http://www.siphhospital.com/th/news/article/share/956/drugallergy
https://www.drugs.com/cg/drug-allergy.html
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/drug-allergy/symptoms-causes/syc-20371835
https://www.premierhealth.com/your-health/articles/women-wisdom-wellness-/drug-allergy-or-side-effect-why-you-need-to-know