8 นิสัยไม่ดี ที่ทำให้เราขาดประสิทธิภาพในการทำงาน

8 นิสัยไม่ดี ที่ทำให้เราขาดประสิทธิภาพในการทำงาน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราต่างต้องเผชิญกับสังคมที่มีแต่ความเร่งรีบ ทำให้เราต้องพยายามปรับตัวเพื่อที่จะเข้ากับสังคมได้อย่างกลมกลืน หากแต่สิ่งแวดล้อมอันแสนวุ่นวายเหล่านี้กลับก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ทำจนติดเป็นนิสัย ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเราถดถอยลงโดยที่เราเองไม่รู้ตัวเลย

วันนี้เราเลยนำ 8 พฤติกรรมไม่ดี ที่มองแค่ผิวเผินอาจเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำกันมาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ

1.การใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กก่อนเข้านอน

การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอนแทบจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับหลายๆคน แต่คุณเคยรู้ไหมว่าคลื่นแสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์นั้นส่งผลกระทบต่อทั้งอารมณ์ความรู้สึก ระดับพลังงานในร่างกาย และยังมีผลต่อการนอนอีกด้วย เนื่องจากแสงสีฟ้านี้เป็นแสงประเภทเดียวกันกับคลื่นแสงที่มีอยู่ในแสงอาทิตย์ตอนเช้า โดยทุกครั้งที่เราใช้อุปกรณ์จำพวกโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊กในตอนกลางคืน แสงสีฟ้าจากหน้าจอนี้จะพุ่งตรงเข้าสู่ดวงตาเรา ส่งผลให้สมองเกิดความสับสนคิดว่าเป็นเวลากลางวัน ทำให้ร่างกายลดการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการนอนหลับ ส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว ทำให้เรานอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท และเกิดความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียในระหว่างวันนั่นเอง

ทางที่ดีเราจึงไม่ควรใช้อุปกรณ์เหล่านี้ตั้งแต่ช่วงหลังอาหารมื้อเย็นเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ และที่สำคัญคือ เพื่อเพิ่มพลังงานและความสดชื่น และความกระปรี้กระเปร่าในการทำกิจกกรมต่างๆในวันถัดไป

2. การเข้าออกเว็บไซต์อื่นๆ ไปด้วยในขณะทำงาน

โดยปกติคนเราจะเริ่มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเราจดจ่ออยู่กับงานนั้นๆเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที โดยช่วงเวลาหลังจากผ่านช่วง 15 นาทีแรกไปแล้ว สมองจะสามารถทำงานได้ดีขึ้นกว่าปกติถึง 5 เท่า ดังนั้น การที่เราทำงานไปได้สักพัก แล้วเปิดเว็บไซต์อื่นๆ ดูคั่นเวลาไปด้วย จะส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง รู้แบบนี้แล้วหวังว่าทุกคนคงจะลองนำทฤษฎี 15 นาทีนี้ไปใช้กันดูบ้างนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เราจดจ่อกับงานได้ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยฝึกในเรื่องของสมาธิได้อีกด้วยค่ะ

3. นิสัยรักความสมบูรณ์แบบจนมากเกินไป

สำหรับงานเขียน หลายคนคงเคยมีอาการที่คิดงานไม่ออก หรือเขียนเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกว่ายังไม่ดีพอจนไม่สามารถเริ่มลงมือเขียนจริงจังได้เสียทีทุกคนควรตระหนักไว้เสมอว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่างในทุกๆ ไอเดียล้วนมีคุณค่าในตัวของมันเอง แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด แต่เราก็ไม่ควรที่จะทิ้งไอเดียนั้นไปเฉยๆอย่างน่าเสียดาย

นักเขียนที่ประสบความสำเร็จหลายคนยอมใช้เวลาเป็นชั่วโมงเพื่อเขียนในสิ่งที่พวกเขารู้อยู่แล้วว่า ในตอนท้ายพวกเขาอาจจะไม่ได้ใส่หน้ากระดาษแผ่นนั้นลงไปในหนังสือของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไอเดียทุกไอเดียนั้นสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ ขอเพียงแค่เราเริ่มลงมือทำโดยไม่ต้องกลัวว่ามันจะออกมาไม่ดี

4. การประชุมย่อยที่บ่อยเกินไป

จริงๆแล้วการประชุมนั้นเป็นกิจกรรมที่แทบจะดูกลืนเวลาอันมีค่าของเราไปมากอย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เนื่องจากบางครั้งอาจมีกว่าครึ่งของการประชุมภายในบริษัทใหญ่ๆ ล้วนมีจุดประสงค์เพียงเพื่อการแจ้งข่าวสารต่างๆ ให้กับผู้บริหารหรือพนักงานเท่านั้น ซึ่งในหลายๆ ครั้งข้อมูลเหล่านี้สามารถใช้การส่งอีเมลแทนได้การประชุมจึงควรจัดขึ้นเพื่อเรื่องที่สำคัญต่อองค์กรจริงๆ เท่านั้น

หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการประชุมที่ไม่จำเป็นไม่ได้ เราควรตรวจสอบตารางเวลาของการประชุมให้ชัดเจน และบอกตารางเวลาของเราเองให้ทางผู้จัดการประชุมทราบ เพื่อไม่ให้การประชุมยืดเยื้อจนกินเวลาที่ใช้ทำงานจริงๆ

5. การตอบกลับอีเมลทันทีที่ได้รับ

เราไม่ควรปล่อยให้การตอบข้อความทางอีเมลบ่อยๆ กลายเป็นสิ่งที่คอยรบกวนการทำงานของเรา วิธีการตอบกลับอีเมลอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดคือ เราจะต้องจัดลำดับความสำคัญของอีเมลแต่ละประเภท เช่น เปิดเสียงแจ้งเตือนเฉพาะข้อความจากลูกค้าคนสำคัญเอาไว้ และตอบข้อความเหล่านี้ก่อน ส่วนข้อความอื่นที่มีความสำคัญรองลงมา ควรตอบหลังจากทำงานหลักจนเสร็จแล้ว

ด้วยเหตุนี้เราจึงควรกำหนดตารางเวลาที่เราจะตอบอีเมลในแต่ละวันเอาไว้ และตั้งค่าข้อความตอบกลับอัตโนมัติที่ระบุช่วงเวลาที่เราจะตอบเอาไว้ เพื่อให้ผู้ส่งรับรู้ว่าเราจะตอบกลับข้อความในเวลาใด

6. การกดปุ่มเลื่อนเวลานาฬิกาปลุกในตอนเช้า

ในขณะที่เรานอนหลับ สมองของเราก็จะจดจำช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังหลับเอาไว้ เพื่อให้ร่างกายตื่นตัวในช่วงเวลาที่เราตื่นนอนตามปกติในทุกๆวัน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมบางครั้งเราถึงตื่นนอนก่อนที่นาฬิกาปลุกจะส่งเสียงร้องเพียงไม่นาน ซึ่งหากเรากดปุ่มเลื่อนเวลาปลุกแล้วกลับมานอนหลับต่อเราจะสูญเสียความตื่นตัวจากการตื่นนอนในครั้งแรกไป ส่งผลให้เกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ไม่อยากตื่น หรือถ้าแย่ไปกว่านั้น อาการเหล่านี้อาจคงอยู่นานเป็นชั่วโมงกว่าจะหายไป

ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะรู้สึกง่วงจนอยากจะกลับไปนอนหลับต่อแค่ไหนหลังจากที่เพิ่งตื่น คุณก็ควรที่จะบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นมาทำกิจวัตรต่างๆ ให้ได้ เพื่อให้เช้าวันใหม่ของคุณเป็นเช้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่จะทำสิ่งต่างๆต่อไป

7. การทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน

โลกของเราตอนนี้ต่างก็มีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ผู้คนใช้ชีวิตกันเร่งรีบมากขึ้น ทำให้ในองค์กรหลายๆแห่งต่างก็ต้องการคนที่มีทักษะการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วอ้างอิงจากงานวิจัยจากหลายแหล่งพบว่า คนที่ทำหลายๆอย่างพร้อมกันจะมีแนวโน้มที่จะจดจำข้อมูลต่างๆ หรือมีสมาธิกับงานได้น้อยกว่าคนที่ทำงานทีละอย่าง เนื่องจากเวลาที่เราพยายามทำสองสิ่งในเวลาเดียวกัน ประสิทธิภาพของสมองจะถูกลดทอนลง ทำให้เราไม่สามารถทำงานทั้งสองอย่างนั้นให้เสร็จสมบูรณ์ได้ในเวลาอันรวดเร็วเมื่อเทียบกับการค่อยๆ ทำงานทีละอย่าง

โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดที่ได้นำกลุ่มคนที่รู้สึกว่าตัวเองสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ดี กับคนที่ชอบทำงานทีละอย่าง มาทดลองทำงานที่ต้องให้ทักษะหลายอย่างพร้อมกัน ผลพบว่าคนที่ชอบทำงานทีละอย่างจะมีความสามารถในการจัดการลำดับขั้น และความสำคัญของการทำงานได้ดีกว่าคนที่ชอบทำงานทีละหลายอย่างเสียอีก

8. การเก็บงานยากไว้ทำทีหลัง

พลังในการทำงานของเราทุกคนต่างก็มีขีดจำกัด หากทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานก็สามารถเกิดการเหนื่อยล้าขึ้นมาได้ และเมื่อเราเกิดความอ่อนล้าประสิทธิภาพในการทำสิ่งต่างๆ ก็จะน้อยลงกว่าสภาวะปกติ ดังนั้น เราจึงควรทำงานที่ยาก และมีรายละเอียดเยอะในช่วงเช้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สภาพจิตของเรายังแจ่มใส และมีพลังงานเต็มเปี่ยม

จะเห็นได้ว่ามีพฤติกรรมหรือนิสัยที่เราเองต่างก็ทำกันอยู่เป็นประจำด้วยความเคยชิน โดยที่เราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเป็นพฤติกรรมที่อาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ หวังว่าบาทความนี้จะได้ให้แรงบันดาลใจกับใครหลายคนที่อยากจะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองนะคะ หากเราลดพฤติกรรมเหล่านี้ลงได้ นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการทำงานแล้ว ยังช่วยให้เราจัดการชีวิตให้มีระบบระเบียบมากขึ้น และยังทำให้เรามีความสุขมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ

 

ที่มา

– https://www.forbes.com/sites/travisbradberry

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Brands
7amino (0)
Active (0)
Alcon (2)
aLGy (2)
Amsel (1)
Bayer (1)
Beurer (2)
CDR (2)
CG210 (2)
D24 (0)
Dettol (4)
Doctor (7)
Durex (5)
Ezerra (5)
Fos (2)
Futuro (9)
Hashi (11)
Hicee (2)
I-COCO (1)
ILHWA (0)
Lynae (2)
Nipro (9)
Noal (0)
O labo (2)
Omron (1)
Proflex (14)
Racer (1)
Ray (0)
Renu (3)
Scagel (3)
Scholl (1)
Stada (1)
Toby (5)
Tomei (5)
Vicks (3)
Vistra (11)
Yamada (1)
Yibon (0)